@@CEMS ระบบตรวจวัดมลพิษจากปล่องอย่างแม่นยำเพื่อการควบคุมสภาพแวดล้อมอย่างยั่งยืน

[dsmol19]

ในยุคที่การผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวอย่างต่อเนื่องแล้วก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หน่วยงานภาครัฐแล้วก็องค์กรเอกชนทั่วทั้งโลกจึงให้ความใส่ใจกับมาตรการตรวจทานรวมทั้งควบคุมการปล่อยสารมลภาวะสู่ชั้นบรรยากาศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเผาไหม้เชื้อเพลิง ฟอกสีโลหะ โรงงานปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า รวมถึงระบบผลิตพลังงานทุกชนิด ระบบที่สามารถพิจารณามลพิษที่มีต้นเหตุเนื่องมาจากปล่องควันอย่างเที่ยงตรงแล้วก็สม่ำเสมอก็เลยเปลี่ยนเป็นหัวใจสำคัญของการจัดการสิ่งแวดล้อม นั่นก็คือ CEMS หรือ Continuous Emission Monitoring System ระบบวัดการปล่อยมลพิษทางอากาศแบบตลอดที่ได้รับการยินยอมรับรวมทั้งใช้อย่างล้นหลามทั้งโลก



เข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่ >>  cems  https://awj.co.th/References01.html [/size]

CEMS เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อวัดความเข้มข้นของก๊าซหรือสารมลภาวะที่ปลดปล่อยออกมาจากปล่องระบายของโรงงานอุตสาหกรรมในแบบเรียลไทม์ โดยทำงานแบบอัตโนมัติและสามารถบันทึกผลการตรวจวัดได้ตลอด 1 วันตลอดทั้งปี ส่วนประกอบของ CEMS โดยปกติจะมีตัวเซนเซอร์ตรวจแก๊ส หน่วยควบคุม หน้าจอแสดงผลลัพธ์ ระบบส่งข้อมูล และเครื่องใช้ไม้สอยเสริมอื่นๆที่ช่วยทำให้สามารถประเมินผลแล้วก็ส่งข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวโยงได้อย่างถูกต้องแล้วก็เร็ว คุณลักษณะเด่นของ CEMS เป็นสามารถตรวจวัดสารมลพิษที่เป็นแก๊สหลัก อย่างเช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ รวมทั้งฝุ่นและก็ออกสิเจน ซึ่งล้วนเป็นสารที่ก่อให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อร่างกายของมนุษย์แล้วก็สิ่งแวดล้อม

การตำหนิดตั้ง CEMS ในโรงงานอุตสาหกรรมไม่ได้เป็นเพียงแค่ข้อกำหนดตามกฎหมายจากภาครัฐเพียงแค่นั้น แต่ว่ายังบอกให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของหน่วยงาน การมีระบบตรวจวัดที่ถูกต้องแล้วก็โปร่งใสช่วยทำให้โรงงานสามารถควบคุมการปลดปล่อยสารพิษไม่ให้เกินมาตรฐานที่ระบุ ทั้งสามารถนำข้อมูลที่ได้มาใช้สำหรับการปรับแก้แนวทางการผลิต ประหยัดพลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับในการจัดการเชื้อเพลิงได้อย่างมีระบบอีกด้วย นอกเหนือจากนั้น CEMS ยังมีหน้าที่สำคัญในการช่วยเหลือหน่วยงานควบคุมมลภาวะให้สามารถสำรวจแล้วก็ประเมินสถานการณ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ เพื่อออกมาตรการควบคุมหรือปรับปรุงแก้ไขได้อย่างมีคุณภาพ

ระบบ CEMS ที่ล้ำสมัยในปัจจุบันยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบออนไลน์และก็ฐานข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษหรือหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อสามารถวิเคราะห์ค่าการปล่อยมลพิษได้ในทันทีจากระยะไกล ช่วยลดภาระในการเข้าวิเคราะห์ภาคสนาม และก็เพิ่มความโปร่งใสในการรายงานข้อมูลให้กับพลเมืองทั่วๆไปอีกด้วย นอกนั้นเทคโนโลยีใหม่ยังช่วยทำให้การสอบเทียบระบบ CEMS สามารถทำเป็นแบบอัตโนมัติ ลดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการคั่นแซงของผู้คนรวมทั้งเพิ่มความน่าวางใจของผลการตรวจวัด

การออกแบบและเลือกใช้ระบบ CEMS ที่เหมาะสมต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในขั้นตอนการผลิตของแต่ละโรงงานแล้วก็จำพวกของสารมลภาวะที่เกี่ยวพัน เป็นต้นว่า โรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงจะมีการปล่อยก๊าสซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในจำนวนมาก ระบบ CEMS จึงจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในการตรวจจับแก๊สดังที่กล่าวมาข้างต้นอย่างประณีต ในขณะโรงงานที่มีการใช้ความร้อนสูง ดังเช่นว่า โรงหลอมเหล็ก หรือโรงผลิตปูนซีเมนต์ อาจอยากระบบซึ่งสามารถทนต่ออุณหภูมิและฝุ่นผงได้สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบจะต้องมีการกรองอากาศและควบแน่นน้ำก่อนนำอากาศไปสู่เครื่องวัดเพื่อให้ค่าที่ได้มีความแม่นยำ

อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ควรจะพิเคราะห์เป็นการดูแลและรักษารวมทั้งทะนุบำรุงระบบ CEMS อย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งการทำความสะอาด ตรวจดูเซนเซอร์ การเปลี่ยนองค์ประกอบที่ย่อยสลาย แล้วก็การสอบเทียบค่าอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งควรจะจัดการโดยผู้ที่มีความชำนาญที่ได้รับการฝึกอบรมแล้วก็การันตีจากผู้สร้างหรือหน่วยงานที่เกี่ยวพัน การบำรุงรักษาที่ดีจะช่วยยืดอายุการใช้แรงงานของระบบรวมทั้งลดความเสี่ยงสำหรับการกำเนิดความคลาดเคลื่อนของข้อมูลซึ่งบางทีอาจนำมาซึ่งการจ่ายค่าปรับหรือการหยุดการจัดการโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้า

องค์กรที่เลือกใช้ CEMS ที่มีคุณภาพสูงและก็ได้รับการยืนยันมาตรฐานสากล ดังเช่น USEPA (United States Environmental Protection Agency) หรือมาตรฐานของยุโรป EN 14181 จะสามารถยืนยันความน่าวางใจของผลของการตรวจวัดต่อหน่วยงานดูแลดูแลแล้วก็มวลชนได้อย่างแน่ใจ ในเวลาเดียวกันยังสามารถใช้ข้อมูลที่ได้มาจากระบบ CEMS เพื่อพินิจพิจารณาแนวโน้มของการปล่อยมลพิษและก็เอามาสร้างรายงานด้านสภาพแวดล้อมที่สอดคล้องกับแนวนโยบาย ESG (Environmental, Social and Governance) ซึ่งกำลังเป็นที่พอใจในวงการนักลงทุนแล้วก็ผู้ส่งเสริมทางธุรกิจทั่วโลก

ในรูปภาพรวม CEMS ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือตรวจวัด แต่คือกลไกสำคัญสำหรับการจัดการสิ่งแวดล้อมขององค์กรอย่างมีคุณภาพ ช่วยสนับสนุนภาพลักษณ์ของหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และก็เป็นการเตรียมความพร้อมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว ทั้งในด้านการผลิต การจัดการจัดแจง แล้วก็การพัฒนาธุรกิจในสมัยที่ลูกค้ารวมทั้งสังคมให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเป็นลำดับหนึ่ง

ด้วยบทบาทที่ครอบคลุมทั้งการวัด ควบคุม รายงาน และพัฒนา CEMS จึงเปลี่ยนเป็นวัสดุที่ขาดไม่ได้ในโลกอุตสาหกรรมยุคสมัยใหม่ที่มุ่งสู่ความคงทนถาวรรวมทั้งรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง



 ขอบคุณสำหรับที่มา บทความ  cems  https://awj.co.th/References01.html